วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2565

Fix ASIC 101 : วิธีการใช้งาน PICKIT3.5

วิธีการมใช้งาน PICKIT 3.5 สำหรับ การ์ด hash board ของ L3+


Download Program



ทำไมเราต้องใช้ Pic Kit ในการเขียนโปรแกรมลงใน Hash Board  มันเปรียบเสมือน การเขียนโปรแกรมลง Controller ฺBoard นั่นเอง 

ขอเริ่มต้นด้วยการอธิบาย   ภาพการทำงาน (ในที่นี้ จะยก ภาพการสั่งงาน ของ Series 17 มาอธิบาย แต่ความจริง ทุก Hash Board จะมีการรับส่งงาน 


จะเห็นว่า Control Board (สีฟ้า) จะเป็นตัวควบคุมทุกอย่าง ซึ่งอันนี้เราจะเขียนโปรแกรมลงด้วย Firmware ไม่ว่าจะใช้ Update ไฟล์ หรือใช้ SD Card เพื่อ อัพ Firmware ก็แล้วแต่สะดวก

แต่ Control Board มันส่งคำสั่งให้ Hash Board ทำงาน และในภาพ Control Board มันก็สั่งให้ Power Supply ทำงานด้วยเช่นกัน ต่างกับรุ่นเก่า อย่าง L3+ จะทำงานด้วยสวิทช์ปิดเปิดแทน  ดังนั้น Power Supply อาจไม่เสีย แต่ Control Board อาจไม่สั่งไปทำงาน ดังนั้น จุดนี้ เราแนะนำให้ ลองอัพ Firmware อีกครั้งก่อนที่จะเปลี่ยน Power Supply 

ประเด็นที่เราจะพูดในวันนี้คือ Control Board มันจะทั้ง สั่งงาน และส่งสัญญาณ(ตัวแก้รหัส) และรับสัญญาณ(ที่แก้รหัสแล้ว) ผ่าน Hash Board แต่ละใบ ผ่าน IO Port (สายแพที่เป็นสายสัญญาณ) กับตัว Pic Chip

เขียนโปรแกรม Rom ลง Hash Board
** อย่าสับสนระหว่าง เขียนโปรแกรม Control Board (ด้วย SD Card) กับ เขียนโปรแกรมลง Hash Board (ด้วย PIC KIT) นะครับ เพราะเราย้ำเตือนแล้ว**


จุดนี้ เราต้องเข้าใจว่า เราจะเขียนโปรแกรมลง Hash Board จะต้องมี 2 สิ่ง
1. เครื่องมือในการเขียนโปรแกรม (PIC KIT 3 ขึ้นไป)
2. ตัวไฟล์สำหรับเขียนโปรแกรม เราจะเรียกว่า Hex File ( Hex คือ ไฟล์เลขฐาน 16 นั่นเอง เป็นภาษา Assembly นะครับ)

Hex File
ใน Hash Board แต่ละรุ่น มันจะมี Hardware ที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น
L3+ จะมี Hash Board หลายเวอร์ชั่่น ไล่ไปตั้งแต่ 1.1-1.6 ซึ่งภายในจะมี Hardware ที่ต่างกัน เช่น รุ่นเก่าๆ จะมี Temp Sensor(เซนเซอร์อุณหภูมิ 2 ตัว ) ในขณะที่รุ่นใหม่ๆ จะเหลือเพียงตัวเดียว

ประเด็น L3+ นี่เอง ที่ทำให้ การเขียนโปรแกรม ลง Hash Board นั้น เราจำเป็นต้องเขียนด้วย Hex File ที่แ  แตกต่างกันออกไป เพราะ Hardware ที่รับค่าส่งค่า แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น นั่นเอง

สรุป คือ เราจะต้องเอา Hex File ที่ตรงรุ่น และ ตรงเวอร์ชั่น มา เขียนลง Hash Board  เท่านั้น  เราไม่ควรเอา Hex Fileของ L3+ Version 1.5 มาเขียนลง Hash Board L3+ Version 1.2 เพราะหวังว่า มันจะแรงขึ้น นอกจากมันไม่แรงขึ้นแล้ว มันยังไม่ทำงานอีกด้วย 

สำหรับช่างแล้ว ที่ต้อง เขียน Rom ใหม่ จะเกิดก็ต่อเมื่อเกิดกรณี   Pic Chip ที่รับคำสั่งมาจาก Control Board ให้ Mosfet จ่ายไฟ แต่ Mosfet มันไม่ยอมจ่ายไฟออก เพราะมันไม่มีไฟ 3.3V ที่ได้รับมาจาก Pic Chip นั่นเอง 


วิธีลงเขียน Rom ลง Hash Board ด้วย PIC KIT 
 เริ่มต้น ลงโปรแกรม MP Lap IPE (มันจะโดนบังคับลงทั้ง 2 ตัว จุดนี้ต้องลงทั้ง 2 ตัว แบบเคยเลือกลงเฉพาะตัวที่ใช้ มันไม่ยอมทำงาน)  

เสียบสายให้เรียบร้อย 
โดยเน้นไปที่สายข้อมูล  ต่อเส้นที่ต่อตรงฝั่ง ลูกศร(ฝั่ง PICKIT) ไม่ว่าจะสีอะไร   ต้องตรงกับ รูปทองเหลืองสี่เหลี่ยม (ห้ามเสียบผิด) สีต้องตรงกัน 

Setting Program MP Lap x IPE


1. Setting >> Advance Mode >>  มันจะถาม Password คือ microship

2. Power >> VDD nom 3.25V และต้องติ๊ก "Power target circuit from PicKit3" หรือ Power target circuit from PM3

3. Operate >>  เลือก “PIC16F1704” หรือ  “PIC16F1705” >> Apply >> Connect
(จะเลือก Chip เบอร์ไหน ควรส่องดูที่หลังชิปอีกที  (ส่วนใหญ่ Bitmain จะเป็นPIC16F1704) ) 

4. เลือก Hex File ให้ถูกต้องกับ Hash Board

5. เมื่อ Detect  Board เสร็จแล้ว ก็จบ คราวนี้จะ ทำอะไรก็ตามสบาย

5.1 Program >> เลือกไฟล์ แล้ว เขียนไฟล์ ลง Hash Board

5.2 Erase >> เป็นการลบไฟล์ ออกจาก Hash Board 

5.3 Read >>  Export ไฟล์ Hex  ออกมาเก็บไว้ (เอาไว้ Copy ออกมาเพื่อไปเขียน Board อื่น เมืองนอกจะนิยมวิธีนี้มากกว่า ใช้ไฟล์ จากคนอื่น เพราะมาจากเครื่องเดียวกัน
ใครที่มาร้อง บอกไม่มีไฟล์ Hex ให้เอาออกมาจากบอร์ด ของตัวเอง ที่ยังดีออกมาเองเลยครับ ) 

5.4. Verify >> หลังจากเขียน Rom เสร็จ ควรกลับมาตรวจที่ช่องนี้อีกครั้งก่อนว่า เรียบร้อยหรือไม่ ก่อนเอาบอร์ดไปทดสอบ

5.5 Blank Check เช็คว่า Board นี้ มีโปรแกรมอยู่รึเปล่า

บทเรียน พื้นฐานการซ่อม ASIC (ทางทฤษฎี)
Fix ASIC 101 :  บทที่ 1 การตรวจสอบ Kernel Log และ ASIC Status และการซ่อมด้วยตัวเอง 
Fix ASIC 101 :  บทที่ 2 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ Domain Voltage
Fix ASIC 101 :  บทที่ 3 วิธีการใช้งาน PICKIT3.5



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น